จะแข่งม้า(ขี่ม้า)ยังไงถึงจะได้เหรียญ

โดย… Monty & Me

กล่าวนำ …หลายครั้งหลายหน หลายคนเคยมาถามผม เกี่ยวกับเคล็ดลับความสำเร็จ ในการแข่งขันขี่ม้า ว่า ? ทำยังไงถึงจะประสบ ความสำเร็จ ในการแข่งขันฯ ? เขาเหล่านั้นถามผมในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ และผมก็ตอบซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งกับคำถามนี้ เลยมานั่งคิดว่า….ไหนๆก็ต้องตอบคำถามนี้บ่อยๆแล้ว ก็ลองเขียนออกมาเป็นบทความเลยดีกว่า …….. ซึ่งจริงๆแล้ว หลักๆมัน ไม่ยากอย่างที่ใจเรานึก, กลัวและกังวลไปเอง มันมีหลักคิดง่ายๆไม่กี่อย่าง โดยผมจะลองลำดับความคิดออกเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

* ทำเพราะความรัก ความเข้าใจในกีฬาขี่ม้าอย่างแท้จริง ผมหยิบมาเป็นสิ่งแรกที่ต้องคุยกันเลย เพราะกีฬาขี่ม้าไม่เหมือนกีฬา ประเภทอื่น เพราะอุปกรณ์กีฬาของเรา มีชีวิต มีความคิด มีจิตใจ มีความรู้สึก มีความนึกคิดเป็นของมันเอง ? นั่นก็คือม้าของเรา นั่นเอง ต้องยอมรับความจริงว่า ในการแข่งขัน นอกจากความพร้อมของผู้ขี่แล้ว ยังต้องมีความพร้อมของม้าด้วย ม้าและผู้ขี่คู่ไหน ทำได้ดีที่สุดในวันนั้นคือ ผู้ชนะ บางครั้งเราพร้อมเราตั้งใจ แต่ม้าเขาป่วยไม่สบาย ไม่มีแรง เราก็ต้องรับความจริงข้อนั้นให้ได้ อย่าไปดุ ทำโทษ เขา และมีความพลอยยินดี ทุกครั้งที่เห็นคนที่ทำได้ดีกว่าเขาเป็นผู้ชนะ เลิกโทษคนอื่น และตั้งเป้า เอาไว้ว่า สักวันนึงเราจะทำได้ * ถามตัวเองว่าตอนที่อยู่ในสนามแข่งขันคุณแข่งอยู่กับใคร ………….ซึ่งก่อนอื่นนักขี่ม้าทุกคนต้องตอบคำถามนี้ให้ได ้เสียก่อน…. ในสนามแข่งขันขี่ม้านั้น จะมีแค่คุณกับม้าของคุณเท่านั้นที่อยู่ในสนาม (ส่วน คนดู, ครูผู้ฝึกสอน, โค๊ช, อดีตนักกีฬา ทีมชาติหลายสมัยที่เป็นตัวเก็ง, ตลอดจน กรรมการตัดสิน ซึ่งพวกคนเหล่านี้ล้วนแล้วต้องอยู่นอกสนามแข่งขันทั้งหมด) คุณไม่ต้องเอาม้าของคุณไปวิ่งแข่งกับม้าของใคร เหมือนพวกม้าแข่ง( Racing Horses) คุณไม่ต้องไปออกแรงไปงัดข้อกับใคร คุณไม่ต้องไปแย่งลูกบอลจากใครในสนามแข่งขัน เพราะในสนามแข่งขันขี่ม้านั้น( Equestrian) จะมีแค่คุณกับม้าของคุณเท่านั้น ที่อยู่ในสนาม คุณต้องแข่งกับตัวเองต่างหาก…และถามต่อไปอีกว่าจะแข่งยังไงหล่ะ ? …ตรงนี้ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ก่อนแข่งคุณซ้อมจากที่บ้านมาดีหรือไม่ ดีพอหรือยัง ถ้าซ้อมมาอย่างดีแล้ว แค่เพียงคุณทำได้เหมือนซ้อมที่บ้าน แข่งกับตัวเอง แค่นี้คุณก็คือผู้ชนะแล้วในเกมการแข่งขัน นั้นๆ…..ทั้งใน Dressage ก็ดี หรือ Show Jumping ก็ดี ยกตัวอย่างเช่น ถามว่าใน Dreassage ถ้าคุณไม่ตื่นเต้นและเกร็งคู่ต่อสู้ หรือม้าของผู้ต่อสู้ และคุณเตรียมตัวทำ Test มาอย่างดี รู้จุด,รู้มุมเลี้ยว ชัดเจน, ไม่ตื่นเต้นกังวล, มีสมาธิใจไม่วอกแว่ก และที่สำคัญมีความสุขกับการขี่ม้าของคุณ แค่นี้แหล่ะคุณก็มีโอกาสคว้าเหรียญ รางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่งจากการแข่งขันมาครองแล้ว หลักคิดเดียวกันแถมชัดเจนมากขึ้น ใน Show Jumping แค่คุณมีสมาธิ, ไม่ตื่นเต้น, กลัวนั้นกลัวนี่, ทำให้ได้เหมือนตอนที่ซ้อม, Walk Course ให้มั่นใจ รู้จุด เลี้ยว มุมเข้าเครื่อง, รู้ speed ที่ใช้ กับเวลาที่มี ….คือสรุปว่า ถ้าแค่ม้าของคุณไม่เตะเครื่องตก หรือปฏิเสธเครื่องแล้วหล่ะก็ คุณก็มีโอกาสเป็นผู้ชนะในเกมแข่งขันนั้นแล้ว

* ถามตัวเองว่าเรากับม้าของเรานั้น รวมกันแล้วมันอยู่ระดับไหน ….. .ในระบบการแข่งขันขี่ม้าจะแบ่งเป็นระดับความยากง่ายของ Course ซึ่งจะกำหนดชัดเจน จาก Dresaage Test ก็ดี หรือจาก ระดับความสูงของเครื่องกระโดดก็ดี หรือจากการแบ่งห้วงอาย ุของผู้เข้าแข่งขันก็ดี กติกาเหล่านี้ถูกกำหนดขึ้นมาเป็นสากล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมอยู่แล้ว ?. มีเรื่องเล่า เอาเรื่องของตัวเอง ก่อนดีกว่า …. ผมคัดตัวติดทีมชาติครั้งแรก (ครั้งเดียว) และได้เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์เลย ? จะเริ่มยังไงดี เอาแบบ ไม่ยาว สั้นๆ กะทัดรัด ได้ใจความ และไม่อยากให้คนหมั่นไส้ด้วย คืออย่างนี้…. ที่ผมจะเล่าให้ฟังอย่างไม่อาย ก็คือ ตอนที่ผมติดทีมชาตินั้น ผมยังไม่เคยแข่งได้ถ้วย Dressage ระดับ Elementary เลย แล้วผมก็ไม่เคยแข่งกระโดดเกิน 1.20 เมตรด้วย แต่ผมเคยชนะการ แข่งขันศิลปะการบังคับม้า ระดับ Novice, ผมเคยชนะการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีด ขวางระดับ 105, 110 ซม. หลายครั้ง หลายหน จนมีคนหลายคนพอที่จะรู้จักบ้าง พอถึงเวลาเขาคัดตัวทีมชาติ Eventing ตอนนั้นแข่งระดับ one star ซึ่งเขาใช้ แค่ ระดับ Novice Tests กระโดดก็แค่ ไม่เกิน 110 ซม. ก็เลยมีรายชื่อเข้าไปคัดตัวกับเขาด้วย จนได้เป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้…. เพราะฉะนั้นผมกำลังจะบอกว่า จำเป็นหรือไม่ที่เวลา
เราจะต้องเลือกระดับการลงแข่งนั้น ต้องเลือกในสิ่งที่ทำได้ไปทั้งหมด ผมตอบเลยว่าไม่จำเป็น ม้าคุณทำ Half Pass, Sholder In ได้ แต่คุณยังไม่เคยสักครั้งที่จะได้ถ้วยชนะเลิศ Novice เลยสักกะใบเดียว แค่เคยได้ โบว์แดง, โบว์เหลือง จำเป็นเหรอที่คุณจะ เอาม้าไปแข่ง Elementary หรือ M level กะอีแค่มันทำ Counter Canter, หรือ Flying Change ได้ หรือม้าของคุณซ้อมอยู่ที่ สโมสร เคยกระโดดสูงได้ 1.30 แค่เครื่องสองเครื่อง จำเป็นหรือเปล่าที่คุณจะเอามันลง ในการแข่งขันระดับความสูงนั้นใน matt ใหญ่ๆ คุณมั่นใจได้อย่างไร ว่ามันจะมีแรงกระโดดให้คุณจนครบ Course ผมจะบอกให้ว่า…. ในความยากง่ายของสนามแข่งขันนั้น มันไม่ใช่มีแค่ความสูงของเครื่องกระโดด เท่านั้น มันยังมีอีกหลายอย่างที่ผู้ออกแบบสนามเขา ออกแบบมาให้คุณได้ทดสอบ ฝีมือกัน มันยังมีทั้ง จุดเลี้ยว มุมที่จะเข้าเครื่อง เส้นทาง ระยะห่างระหว่างเครื่อง ชนิดของเครื่อง กระโดด และมีอะไรอีกมากมาย ซึ่งผู้ที่จะเป็นผู้ออกแบบสนามนั้น เขาต้องไปร่ำเรียนมา สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่คุณต้องเอาชนะ มันให้ได้ก่อน ในแต่ละระดับ ค่อยๆผ่านมันไปทีละขั้นๆ ไม่ต้องรีบ…… เดี๋ยววันนั้นมันมาถึงเอง

* สรุปก็คือ มี 3 ประเด็นหลักๆ คือ ต้องรู้ตัวเอง และแข่งกับตัวเอง ….ที่สำคัญที่สุด ต้องทำด้วยความรัก ความเข้าใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ….เท่านั้นเองครับ เคล็ดลับของผม !

 

Like and Share!